website ? http://www.arda.or.th
Facebook ?https://www.facebook.com/ardathai
Line ✅https://line.me/R/ti/p/%40yhv6070r
ARDA ? https://www.facebook.com/kasetkaoklaiARDA2017
โรคปลายผลเน่าในมะม่วงเกิดจากมะม่วงขาดธาตุแคลเซียม จะเกิดมากในดินเหนียวที่เป็นกรดจัด ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตผิดปกติ มีขนาดเล็กและโตช้า โดยอาการเริ่มแรกจะเห็นได้ตั้งแต่ผลมะม่วงยังมีขนาดเล็กประมาณ 3-4 เซนติเมตร จนกระทั่งผลใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตรขึ้นไป ปลายผลจะมีลักษณะสีผิวค่อนข้างเหลืองด้านๆ ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแถบๆ และเป็นสีดำในที่สุด แผลเป็นสีน้ำตาลหรือดำจะอยู่ในช่วงปลายผล ในช่วง 4-5 เซนติเมตร และเมื่อผลโตขึ้น ส่วนปลายนั้นก็จะไม่ขยายใหญ่ตาม แต่จะค่อยๆแห้งดำและลีบลงส่วน ผลที่แสดงอาการจะโตได้จนผลสุก เสียเพียงช่วงล่างที่ลีบดำและไม่ลามต่อไปยังสภาพดีอยู่
วิธีการป้องกันและกำจัดโรคปลายผลเน่า
1. เนื่องจากโรคนี้ มักจะเกิดกับมะม่วงที่ติดผลมาก การแก้ไขที่พอจะทำได้คือการทยอยเก็บผล ที่เริ่มมีอาการปลายผลออกสีเหลืองไปขายก่อน เพื่อลดการแก่งแย่งธาตุอาหารแล้วที่เหลือบนต้นก็จะไม่ค่อยพบอาการ
2. ฉีดพ่นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารเสริมจำพวกแคลเซียมโบรอนทางใบ เมื่อพบว่ามะม่วงเริ่มแสดงอาการขาดแคลเซียม หรือมะม่วงติดผลดก อัตราที่ใช้ 20-30 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นติดต่อกัน 2-3 ครั้ง หรือจนกว่ามะม่วงไม่แสดงอาการขาดธาตุ อาจจะช่วยลดการเกิดโรคปลายผลเน่าได้
3. หลังเก็บเกี่ยวควรใส่ปูนขาวหิน ปูนบด หรือโดโลไมท์ เพื่อเพิ่มแคลเซียมทางดิน โดยเฉพาะในสวนมะม่วงที่เคยออกดอกติดต่อกันมาเป็นเวลานาน ใช้ในอัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น โดยหวานบริเวณทรงพุ่มให้ทั่ว แล้วรดน้ำตามทันที
ด้วย 3 วิธีง่ายๆเท่านี้ก็ป้องกันโรคราเสี้ยนได้
“เมื่อก่อนนี้มักจะเจอปัญหาโรคปลายผลเน่า แต่เรามารู้ทีหลังว่าเพราะขาดแคลเซียม ทุกวันเราเสริมด้วยธาตุแคลเซียมเราพ่นแคลเซียมบ่อยๆ โรคปลายผลเน่าเดี๋ยวนี้ก็ไม่มี”
#มะม่วง
#ราเสี้ยน
#โรคปลายผลเน่า
#วิจัย
#แมลง
#โรคพืช
#สวก.