ปัจจุบันมีผู้ป่วยทางทันตกรรมเยอะมาก แต่ไม่ยอมไปหาหมอ เพราะกลัวเจ็บจากเครื่องมือในขณะที่ทำการรักษาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นขูดหินปูน อุดฟันหรือว่าถอนฟัน รวมไปถึงการฉีดยาชาด้วย ทาง สวก. ได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัย การดัดแปรข้าวไทยเพื่อใช้ประโยชน์ทางทันตกรรม
ยาชาเป็นส่วนหนึ่งที่ทันตแพทย์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มารับการรักษา ในปัจจุบันยาช้าก็ยังคงอยู่ในรูปแบบเข็มที่ต้องทิ่มแทงลงไปในส่วนในปากของผู้ป่วย ซึ่งป่วยเองก็ต้องเจอกับความเจ็บปวดอยู่ดี ดังนั้นโครงการดัดแปรข้าวไทยเพื่อใช้ประโยชน์ทางทันตกรรม จึงเป็นการวิจัยที่พัฒนาให้เกิดเจลยาชาที่ไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา เป็นการทำยาชาเฉพาะที่ที่เราต้องการลดความเจ็บปวด เจ็บตรงไหนก็ถามตรงนั้น
โดยที่เรานำเอาข้าวไทยหมายถึงเมล็ดข้าวไทย มาดัดแปลงโครงสร้าง เพื่อที่จะให้เป็นสารเกาะเจลแล้วก็ใช้ประโยชน์ในทางเภสัชกรรม เริ่มแรกได้ทดลองใช้กับผู้ใช้จริง โดยทางทันตกรรม คณะทันตแพทย์ ได้นำเจลข้าวของไปทดลองใช้ โดยที่ได้ผสมตัวอย่างต่างๆที่ ตามแต่งสีไว้หลายๆสี แปลว่ามีตัวยาหลายๆอย่าง มีทั้งตัวยาต้านเชื้อรา มีทั้งตัวยาป้องกันฟันผุ มีทั้งตัวยาที่ทําให้ฟันขาวสะอาด นำไปทดลองใช้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้ผลมาว่าเจลข้าวสามารถที่จะนำส่งสารสำคัญหรือตัวยาเข้าสู่ช่องปากได้
จากการทดลองเกี่ยวข้าวสามารถเกาะติดเนื้อเยื่อได้ดีกว่าเจลที่มีขายอยู่ทั่วไป โดยในโอกาสต่อไปจะลองผสมตัวยาอื่นๆเข้าไปอีก เพื่อที่จะให้มีการนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆต่อไป ไม่ว่าจะเป็นในด้านการแพทย์ที่เข้าไปใช้นอกเหนือจากบริเวณช่องปากของคน ส่วนต่างๆของร่างกาย รวมทั้งสารสำคัญที่จะออกฤทธิ์เพื่อให้เกิดความสวยงาม หมายถึงทางเวชสำอางเครื่องสำอางได้เลย
เจลยาชาจากข้าวเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่ต้องไปหาหมอแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ขณะนี้ยังไม่มีผลิตออกจำหน่าย อยู่ระหว่างหาผู้ประกอบการเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์
#เจลยาชา #ข้าว #ยาชา
#สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร #arda #วิจัยและพัฒนา #สวก.
website ? http://www.arda.or.th
Facebook ?https://www.facebook.com/ardathai
Line ✅https://line.me/R/ti/p/%40yhv6070r
ARDA ? https://www.facebook.com/kasetkaoklaiARDA2017
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
