พื้นที่ราบทางเหนือของไทย มีศักยภาพสูงในการปลูก “ข้าวสาลี” โดยเฉพาะช่วงหลังนาปี เพราะมีอากาศหนาวเย็น มีแหล่งน้ำชลประทานที่เพียงพอ
การปลูกข้าวสาลีหลังนาปี บริเวณพื้นที่ราบภาคเหนือตอนบนควรทำในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม จนถึงเดือนกุมภาพันธ์
การเลือกพันธุ์ข้าวสาลี เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ ต้องมีความงอกไม่ต่ำกว่า 80 % นำเมล็ดพันธุ์แช่ในน้ำสะอาด ตากแดดจนแห้งสนิทแล้วปลูกทันที ห้ามเก็บเมล็ดข้ามวัน โดยใช้สารเคมี 2 ชนิด คลุกเมล็ดก่อนปลูก เพื่อป้องกันแมลงที่อยู่ในดิน และป้องกันโรคต้นแห้ง อันเกิดจากเชื้อรา
ในดินค่อนข้างเหนียว ใช้วิธีปลูก โดยการหว่านอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตสูงสุด คือ 24 กก./ไร่
ในสภาพดินร่วน ใช้วิธีปลูก โดยการหยอดเป็นแถว อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตสูงสุด คือ 16 กก./ไร่ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนต้นประมาณ 280 ต้น/ตารางเมตร
การเตรียมพื้นที่ปลูก แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ การปลูกในสภาพไร่ ต้องมีการเตรียมแปลง โดยไถดะ หลังจากนั้น ก็ไถแปรหรือไถพรวน การปลูกในสภาพนา ไม่มีการเตรียมดิน เพียงตัดตอซังข้าว ให้ชิดดิน แล้วปลูกโดยการหยอดเมล็ดได้เลย
จะเห็นว่า ในพื้นที่ที่มีน้ำจำกัด และอากาศเย็น “ข้าวสาลี” จะเติบโตได้ดี เพราะไม่ต้องการน้ำมาก และตลอดช่วงฤดูการ เพาะปลูก จะมีการให้น้ำแก่ข้าวสาลีประมาณ 3 – 4 ครั้งเท่านั้น
#ข้าวสาลี #ธัญพืช #การปลูกข้าวสาลี
#สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร #arda #วิจัยและพัฒนา #สวก.
website ? http://www.arda.or.th
Facebook ?https://www.facebook.com/ardathai
Line ✅https://line.me/R/ti/p/%40yhv6070r
ARDA ? https://www.facebook.com/kasetkaoklaiARDA2017